วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552

ประวัติความเป็นมาของขนมไทย

ขนมจัดเป็นอาหารที่คู่สำรับกับข้าวไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ โดยใช้คำว่าสำรับกับข้าวคาว-หวาน โดยทั่วไป ประชาชนจะทำขนมเฉพาะในงานเลี้ยง นับตั้งแต่การทำบุญเลี้ยงพระ งานมงคลและงานพิธีการ อาหารหวานที่จัด เป็นสำรับจะต้องประกอบด้วย ของหวานอย่างน้อย 5 สิ่ง ซึ่งต้องเลือกให้มีรสชาติ สีสัน ชนิด ตลอดจนลักษณะที่ กลมกลืนกัน แต่ละสำรับจะต้องมีผลไม้ 10 ที่ และขนมเป็นน้ำ 1 ที่เสมอ 
   
  ขนมไทย เป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยอย่างหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันดี เพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้ เห็นถึงความละเอียดอ่อนประณีตในการทำ ตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการทำ ที่กลมกลืน พิถีพิถัน ในเรื่องรสชาติ สีสัน ความสวยงาม กลิ่นหอม รูปลักษณะชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทาน ขนมแต่ละชนิด ซึ่งยังแตก ต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนิดนั้น ๆ 
   
  ขนมไทยที่นิยมทำกันทุก ๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่าง ๆ เนื่องในการทำบุญเลี้ยงพระ ก็คือขนม จากไข่ และมักถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมนั้น ๆ งานศิริมงคลต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส ทำบุญวันเกิด หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะมีการเลี้ยงพระกับแขกที่มาในงาน เพื่อเป็นศิริมงคลของงานขนมก็จะมี ฝอยทอง เพื่อหวังให้อยู่ด้วยกัน ยืดยาวมีอายุยืน ขนมชั้น ก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เฟื่องฟู ขนมทองเอกก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้น ขนมที่ใช้ในงานมงคลสมรส 

  ถ้าเป็นงานมงคลสมรสมักจะทำขนมหวานให้ครบ 9 สิ่งขนมที่ใช้ในงานมงคลสมรสตามประเพณี ทางฝ่าย เจ้าสาวจะต้องเป็นผู้จัด และขนมที่นิยมจัด คือ 1. ฝอยทองหรือทองหยิบ 2. ขนมชั้น 3. ขนมถ้วยฟู 4. ขนมทองเอก 5. ขนมหม้อแกง 6. พุทราจีนเชื่อม 7. ข้าวเหนียวแก้ว หรือวุ้นหน้าสีต่าง ๆ 8. ขนมดอกลำดวน 9. ผลไม้ต่าง ๆ ลอยแก้ว แต่ตามความเชื่อบางอย่างของคนไทย ขนมที่มีลักษณะเป็นเส้น มักจะใช้สำหรับงานทำบุญอายุ เพราะเชื่อ ว่าจะช่วยให้มีอายุยืนยาว แต่กลับไม่ใช้จัดในงานศพ เพราะเชื่อว่าจะมีการตายต่อเนื่องไม่เป็นมงคล ความเชื่อ เหล่านี้ถือเป็นเหตุผลของแต่ละบุคคลมิได้เป็นข้อห้ามเสียทีเดียว 

  ขนมที่ใช้ในพิธีการตั้งศาลพระภูมิ ขนมที่ใช้เป็นเครื่องสังเวยพระภูมิ คือ 1. ขนมต้มแดง 2. ขนมต้มขาว 3. ขนมเล็บมือนาง (ขนมคันหลาว) 4. ขนมดอกจอก หรือขนมทองหยิบ 5. ขนมถั่วแปบ (ขนมหูช้าง) 6. ขนมข้าวเหนียวแดง 7. ขนมประเภทบวชต่างๆ 

  ขนมที่ใช้ในเทศกาลต่าง ๆ ประเพณีสงกรานต์ งานตรุษสงกรานต์ ตรงกับวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี คนไทยถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ ของไทย ขนมที่ใช้ทำได้แก่ 1. กาละแม 2. ข้าวเหนียวแดง 

  วันเข้าพรรษา วันเข้าพรรษาตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันที่พระสงฆ์ต้องอยู่จำวัด ไม่ออกไปค้างแรม ที่อื่นเป็นระยะเวลา 3 เดือน เพราะเป็นฤดูฝน ขนมที่นิยมทำ ได้แก่ 1. ข้าวต้มผัด 2. แกงบวดต่าง ๆ ได้แก่ แกงบวดฟักทอง แกงบวดมันสำปะหลัง 

  วันสารทไทย วันสารทไทยตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ขนมที่ใช้ทำกัน ได้แก่ ขยาสารท การทำบุญเดือนสาม เป็นเทศกาลทำบุญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเรียกว่า งานบุญข้าวจี่ เป็นการจัดอาหารมาถวายพระ ที่อยู่ ณ สถานที่ของวัด เพื่อปลงอาบัติครั้งยิ่งใหญ่ในรอบปี ขนมที่ใช้งานบุญเดือนสาม ได้แก่ 1. ขนมเทียน 2. ข้าวต้มผัด 3. ข้าวจี่ 

  การทำบุญเดือนสิบ การทำบุญเดือนสิบ ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 เป็นเทศกาลของภาคใต้ เป็นการทำบุญแผ่ส่วนกุศล ให้กับผู้ล่วงลับไปแล้ว ขนมที่ใช้ในการทำทำบุญเดือนสิบ ได้แก่ 1. ขนมลา หมายถึง เสื้อผ้าแพรพัน 2. ขนมกง หมายถึง เครื่องประดับ 3. ขนมดีซัน หมายถึง เบี้ยหรือเงินใช้สอย 4. ขนมพอง หมายถึง แพรล่องข้าม 5. ขนมสะบ้า หมายถึง สะบ้า

ไม่มีความคิดเห็น: